ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยตัวเองที่สวีเดน

ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่โควิด 19 ระบาดที่สวีเดนเมื่อปีที่แล้ว รู้สึกว่าการไปตรวจหาเชื้อและการระบาดมันช่างห่างไกลกับตัวเรามาก ตอนนั้นใช้ชีวิตตามปกติ ยังคงไปรับส่งลูกที่รร.อนุบาลได้อย่างสบายใจ ไปไหนมาไหนได้ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของและร้านตัดผม แต่มาวันนี้ วันที่รู้สึกว่าการระบาดโควิด 19 มันช่างใกล้ตัวยิ่งนัก

มันเริ่มจากเมื่อสี่อาทิตย์ก่อนผู้ปกครองทุกคนในรร.อนุบาลของลูกได้รับอีเมล์หรือจดหมายข่าวจากครูใหญ่ของรร.ว่า มีคุณครูและเจ้าหน้าที่ในรร.ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 3 คน หลังจากวันนั้นก็ได้รับจดหมายข่าวแจ้งจำนวนคนติดเชื้อในรร.มาเรื่อย ๆ อย่างน้อย 3 ฉบับ ตัวเราเองไม่รอช้า พอได้จดหมายฉบับแรกก็บอกคุณครูที่รร.ว่าขอให้ลูกลาหยุดเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เพราะตอนนั้นคาดการณ์ไว้ว่า ถ้าในรร.มีคนติดคนแรก มันก็ย่อมต้องมีอีกหลาย ๆ คนติด แล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่คาดไว้

จากนั้นลูกก็กลับไปรร.ตามปกติหลังจากได้รับจดหมายข่าวว่าอาทิตย์นี้ไม่มีคุณครูหรือเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อโควิด 19 แล้ว

จุดเริ่มต้นของการไปตรวจหาเชื้อโควิด 19

เหมือนทุกอย่างจะสงบดี เราใช้ชีวิตอย่างปกติ (แต่ก็ยังรักษาระยะห่างเวลาไปข้างนอก ล้างมือทุกครั้งและใช้เจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังจากไปตามร้านค้าต่าง ๆ) จนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาที่เพิ่งจะเลยวันเกิดของลูกไป เราสองคนกับสามีก็ตั้งใจว่าอยากจะจัดงานวันเกิดให้ลูกแบบเล็ก ๆ เพราะปีที่แล้วไม่ได้จัดให้ลูกเลย และจะชวนเพื่อนของลูกมาไม่มากและเราจะจัดงานข้างนอกกัน

หลังจากจบงานวันเกิดลูกไปในวันเสาร์ วันอาทิตย์เช้าตื่นมาแล้วก็นั่งกินข้าวกัน สามีก็ได้รับ sms จากหนึ่งในผู้ปกครองที่มางานวันเกิดว่า “เขาได้รับผลตรวจหาเชื้อโควิด 19 และผลนั้นเป็นบวก (จ้า)” (ผู้ปกครองท่านนั้นเขาไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 มาเมื่อวันพฤหัส แล้วก็ได้รับผลเมื่อวันอาทิตย์ตอนเช้า แล้วเขาก็ไม่มีอาการใด ๆ ที่บอกว่าติดเชื้อ)

เราก็สงสัยนะว่าระหว่างที่รอผลตรวจนี้ เราสามารถออกไปไหนมาไหนได้ด้วยหรอ ในเว็บไซต์ 1177.se ก็ได้บอกไว้ว่า “ระหว่างที่รอผลนี้ควรอยู่บ้าน สามารถออกไปซื้อของได้ แต่ให้เว้นระยะห่าง 2 เมตร ให้พบปะคนให้น้อยที่สุด ไม่ให้ใช้รถเมล์ รถไฟหรือแท็กซี่” (ความเห็นส่วนตัวมองว่าก็นี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งไหมที่ทำให้จำนวนคนติดเชื้อสูงมากขึ้น เพราะรัฐไม่ได้แนะนำให้ว่าระหว่างรอผลให้กักตัวหรือไม่ให้ออกไปไหน)

จองเวลาเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19

เราไม่รอช้า ยกเลิกแพลนที่จะไปร้านขายต้นไม้ เข้าแอพรร.ลูกแล้วให้ลูกหยุดเรียนหนึ่งอาทิตย์ แล้วก็เข้าเว็บไซต์ 1177.se ( เป็นเว็บไซต์ทางการของรัฐบาลสวีเดนที่ให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับทุกโรค) เพื่อจองเวลาตรวจหาเชื้อด้วยตัวเอง

การตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่สวีเดนสามารถทำได้ด้วยตัวเองมีหลายวิธีด้วยกัน 1.การขับรถไปขอรับชุดตรวจ 2. ขอรับชุดตรวจที่ร้านขายยาหรือ 3. จะให้เขาส่งมาที่บ้านก็ได้ โดยการขอรับชุดตรวจด้วยตัวเองนั้นไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และจะตรวจกี่ครั้งก็ได้

สำหรับการขับรถไปรับชุดตรวจนั้น ในเมืองต่าง ๆ จะมีจุดสำหรับให้เราขับรถเข้าไปขอรับชุดตรวจเองได้ตามจุดที่กำหนดซึ่งสามารถดูได้ตอนที่เราล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์ 1177.se (ข้อดีของเว็บไซต์นี้คือ เราไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกใด ๆ เพื่อล็อกอินเพียงแค่มี BankID – การล็อกอินด้วยรหัสจากแอพพลิเคชั่น ก็สามารถเข้าไปใช้บริการต่าง ๆ ได้ครบ)

ในเว็บไซต์ 1177.se เขาบอกไว้เลยว่า ใครสามารถไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ ซึ่งกลุ่มบุคคลที่เขาแนะนำให้ไปตรวจคือ

1. คนที่มีอาการบ่งบอกว่าได้ติดเชื้อแล้ว
2. คนที่เคยหรือร่วมอยู่อาศัยกับคนที่มีเชื้อโควิด 19 – ให้ตรวจหาเชื้อ 5 วันหลังจากที่คนติดเชื้อได้ตรวจหาเชื้อแล้ว
3. คนที่ได้พบปะกับคนที่ติดเชื้อ – 1177.se แนะนำว่าให้ไปตรวจหาเชื้อให้เร็วที่สุดและ 5 วันหลังจากที่ได้พบปะกับคนที่ติดเชื้อ รวมถึงเด็ก ๆ ที่อายุ 6 ขวบขึ้นไปก็แนะนำให้ตรวจหาเชื้อและระหว่างที่รอผลสามารถไปรร.ได้

แต่เด็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 6 ขวบเขาไม่แนะนำให้เด็กตรวจหาเชื้อค่ะ ถ้าพ่อแม่หรือคนในบ้านติดเชื้อเขาบังคับว่าให้เด็กหยุดอยู่บ้านไม่ต้องมารร. หรือถ้าเด็กป่วยก็ให้อยู่บ้าน

ตรวจหาเชื้อโควิด 19 แบบขับรถไปรับชุดตรวจ (การเก็บตัวอย่างส่งตรวจด้วยตัวเอง)

มันให้อารมณ์เหมือนเราขับรถไปสั่งแมคโดนัลแบบ drive-in โดยไม่ต้องลงจากรถก็มีเจ้าหน้าที่ใส่ทั้งถุงมือ หน้ากากและ face shield เดินมาที่รถเราแล้วก็ถามว่า “จะมาตรวจกี่คน” แล้วก็ขอบัตรประชาชนของคนที่จองเวลาไว้และให้เราขานเลขประจำตัวของเราเพื่อเป็นการเช็คว่าตัวจริงเสียงจริงที่มาตรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เดินหายไปสักพักแล้วก็กลับมาพร้อมกับชุดตรวจในถุงพลาสติดใส ๆ ก่อนยื่นส่งให้ เขาก็ให้เช็คว่าชื่อบนหลอดพลาสติกที่ใส่ก้านสำลีนั้นถูกต้องหรือไม่

ภาพจาก https://samtrans.se/provtagning-av-covid-19/

จากนั้นเราก็ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถ แกะถุงพลาสติกและอ่านวิธีการทำ ในถุงชุดตรวจมีอุปกรณ์หลักคือก้านสำลียาวประมาณ 20 เซนติเมตรบรรจุอยู่ในหลอดพลาสติก นอกจากนั้นยังมีคู่มือวิธีการทำว่าจะต้องเอาก้านสำลีไปจิ้มตรงไหนบ้างและจานพลาสติกวงกลม (คล้าย ๆ กับเวลาทำแล็บจะมีจานพลาสติกกลม ๆ สีขาว) 1 ใบ

เราบิดหลอดพลาสติกเพื่อเอาก้านสำลีออกมา ตัวอย่างที่ต้องเก็บคือสารคัดหลั่งจากจมูก น้ำลายและที่เยื่อบุคอหอย จุดแรกที่ต้องทำคือ “เอาก้านสำลีแหย่เข้าไปในคอให้ลึกไปจนถึงผนังช่องคอ แล้วก็หมุน ๆ สัก 10 วินาที”

จุดที่สอง ยังคงใช้ก้านสำลีก้านเดิม “แหย่เข้าไปในจมูกในมากที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างน้อย 2.5 เซนติเมตร” เราก็ค่อย ๆ แหย่ หมุน ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนคิดว่าน่าจะได้แล้วล่ะเพราะมันก็รู้สึกเจ็บ ๆ แล้วก็หมุน ๆ ก้านสำลีอีก 10 วินาที

จุดสุดท้ายคือ “ถ่มน้ำลายใส่จานพลาสติก แล้วเอาก้านสำลีก้านเดิมจุ่มลงไปที่น้ำลายนั้น จุ่มให้ชุ่มเลย” จากนั้นเป็นอันเสร็จแล้วก็เอาก้านสำลีนั้นใส่กลับลงไปในหลอดพลาสติก เอาหลอดพลาสติกใส่ลงในถุงอีกใบ ปิดปากถุงให้เรียบร้อยแล้วก็ขับรถไปที่จุดเดิมแล้วหย่อนตัวอย่างของเราไปที่กล่องรับ

รอลุ้นผลตรวจ

หลังจากที่เราส่งตัวอย่างที่เราเก็บด้วยตัวเองแล้วก็ใช้เวลาอย่างน้อย 1 – 3 วันเพื่อรอผล ระหว่างที่รอผลตรวจ เขาก็ให้คำแนะนำสำหรับคนที่ได้พบปะกับคนที่ติดเชื้อโควิด 19 ว่า (คำแนะนำของคนแต่ละกลุ่มจะแตกต่างกันเล็กน้อยในบางข้อ อย่างเช่นคนที่อาศัยอยู่ร่วมกับคนที่ติดเชื้อ 1177.se จะแนะนำเพิ่มเติมว่า ไม่ให้รับประทานอาหารร่วมกับคนที่ติดเชื้อ)

1. ควรอยู่บ้าน
2. ไม่ควรเดินทางด้วยรถสาธารณะ เช่น รถไฟ รถเมล์หรือแท็กซี่
3. พบปะคนให้น้อยที่สุดและรักษาระยะห่าง 2 เมตรเมื่อออกไปข้างนอก
4. ถ้าต้องออกไปข้างนอกและไม่แสดงอาการใด ๆ สามารถไปซื้อกับข้าวหรือไปแค่ร้านขายยาเท่านั้น
5. ล้างมือและใช้เจลแอกอฮอล์ให้บ่อย ๆ หรือถ้าไอหรือจามให้ไอจามที่ข้อพับแขน
6. ถ้าต้องไปเจอเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ควรแจ้งให้เขาทราบว่าเราได้ไปพบปะกับคนที่คิดเชื้อโควิด 19

เมื่อผลตรวจออกมาเรียบร้อย เขาจะแจ้งทาง sms และให้เราล็อกอินเข้าไปที่ 1177.se เพื่อดูผลการตรวจ

ถ้าผลออกมาเป็นบวกจะต้องทำอย่างไร

ใครที่ได้ผลออกมาเป็นบวกหรือแปลได้ว่า “เราติดเชื้อโควิด 19” แล้ว 1177.se แนะนำเป็นข้อแรกเลยคือ “ให้อยู่บ้านอย่างน้อย 7 วัน ไม่พบปะใครและไม่ออกจากบ้านเพื่อไม่ให้เกิดการแผ่ระบาด” และถ้าคิดว่าตัวเองหายดีแล้วก็ไม่ต้องจองเวลาขอตรวจเชื้อเพราะเชื้อโควิดอาจจะยังคงอยู่นานหลายเดือนแม้ว่าจะหายแล้วก็ตาม ผลการตรวจที่ได้ยังไงก็คงออกมาเป็นบวก

การรักษาเบื้องต้นของคนที่ติดเชื้อที่สวีเดนนั้นให้รักษาตัวเองที่บ้านจนกว่าจะหาย แต่ถ้าอาการนั้นแย่มากขึ้นหรือเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจก็ให้ผู้ป่วยติดต่อสถานพยาบาลทันที การจะได้ไปนอนแอดมิทที่รพ.นี้ต้องอาการแย่มาก ๆ และต้องการการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด 1177.se เข้าก็ได้เขียนไว้อย่างครอบคลุมว่า “เราจะดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อติดโควิด 19” หรือถ้าต้องการคำปรึกษาก็สามารถโทร 1177 ได้ทั่วประเทศ

ไม่ดราม่า ไม่ประนาม

นอกจากจะอยู่บ้านไม่ออกไปไหนแล้ว สิ่งถัดมาที่ต้องทำคือ เขาไปกรอกแบบฟอร์มที่เราจะใส่รายละเอียดไปว่า เราคิดว่าเราอาจจะติดเชื้อมาจากที่ไหนและเราไปที่ไหนมา จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเรามาและสอบถามเพิ่มเติม และอีกสิ่งสำคัญที่ควรทำคือ “การแจ้งบอกให้คนรอบข้างและคนที่เราไปพบปะมาได้ทราบเพื่อที่เขาจะได้ไปตรวจหาเชื้อกัน” ซี่งก็ไม่มีการโกรธเคืองกันหรือโทษกันที่ทำให้ทุกคนต้องมาลำบาก แต่กลับทำความเข้าใจกับสถานการณ์และจัดการตัวเองไปหาตรวจเชื้อกันมากกว่า

ดูจำนวนผู้ติดเชื้อแบบละเอียด ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขสวีเดน

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราหายแล้ว

อันนี้น่าจะบอกได้ยากว่าจะรู้ได้อย่างไร ส่วนตัวเองก็ยังไม่ได้เป็นเลยบอกไม่ได้ แต่จากที่ได้อ่านมาและฟังมา มันน่าจะคล้าย ๆ กับเหมือนเราจะหายจากอาการหวัด คนที่เป็นจะรู้เองว่าหายหรือยัง คนที่ติดเชื้อและแสดงอาการหลายคนบอกว่าเขาหายแล้วแต่อาการที่ไม่รับรู้รสอาหารและกลิ่นต่าง ๆ ก็เริ่มดีขึ้น

---

แหล่งที่มาข้อมูล

https://www.1177.se/Skane/